GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "World of Dragon Nest"
World of Dragon Nest เปิดลงทะเบียนล่วงหน้า รับสัตว์ขี่พิเศษ ฟรี! 8 ม.ค. นี้เจอกัน
ประกาศวันลงทะเบียนล่วงหน้าแล้ว สำหรับ World of Dragon Nest เกมมือถือ MMORPG Open World พัฒนาโดย Eyedentity Games ซึ่งเป็นทีมผู้พัฒนาทีมเดียวกับ Dragon Nest Online เวอร์ชั่น PC โดย World of Dragon Nest นี้เป็นเวอร์ชั่นมือถือ และจะให้บริการโดย Nexon Thailand สามารถลงทะเบียนเพื่อรับของรางวัลสุดพรีเมียมมูลค่ากว่า 1,500 บาท พร้อมสัตว์ขี่สุดพิเศษฟรี! ตั้งแต่วันนี้ – 7 ม.ค. 2020 และเกมจะเปิดให้บริการ 8 ม.ค. นี้แน่นอน ทั้ง iOS และ Android โดยการลงทะเบียนล่วงหน้านั้นจะเปิดให้ลงทะเบียน 2 ส่วน ได้แก่ 1. ลงทะเบียนที่ App Store หรือ Google Play Store (แนะนำ) ลงทะเบียนผ่านช่องทางนี้ไว้เพื่อไม่ให้พลาดการแจ้งเตือน และสิทธิพิเศษก่อนใครเมื่อเกมเปิดให้ดาวน์โหลด และรับสัตว์ขี่สุดพรีเมียม ฟรี! มูลค่ากว่า 1,500 บาท iOS: http://bit.ly/WOD-iOS Android: เร็วๆ นี้ 2. ลงทะเบียนที่หน้าเว็บไซต์ เพื่อร่วมสนุกกิจกรรมและรับของรางวัลมากมาย https://wod.nexon.com นอกจากนี้ยังมี กิจกรรมนักล่ารางวัล หรือ Reward Hunter Event เพียงแค่กดไลค์แฟนเพจ World of Dragon Nest ครบตามจำนวนที่กำหนด รับของรางวัลสุดพิเศษยกเซิร์ฟ! อีกทั้ง World of Dragon Nest ยังมีระบบที่เพิ่มเข้ามาใหม่ เช่น การรองรับภาพที่ 60 FPS, Dark Nest ใหม่, Sea Dragon Nest, เอฟเฟกต์อาวุธใหม่สุดจี๊ดจ๊าด, รีเซตสกิลได้, ระบบ Seal skill, สถานะผิดปกติที่แสดงผลชัดเจนขึ้นในโหมด PvP, ระบบเควสฉุกเฉิน, 3 Nest ใหม่, มอนสเตอร์สามารถบล็อกการโจมตีได้ และเนื้อเรื่องบทที่ 3 ที่ให้คุณได้ออกผจญภัยได้อย่างตื่นเต้นเร้าใจยิ่งขึ้น และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้อย่างลึกซึ้งมากกว่าเดิม ด้วยฟีเจอร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาพิเศษสำหรับเกมเวอร์ชั่นนี้โดยเฉพาะ ติดตามข้อมูลข่าวสารและอัปเดตของเกม World of Dragon Nest ได้ที่ Facebook เพจหลัก www.fb.com/wodthpage
23 Dec 2019
ไกด์ World of Dragon Nest อยากเพิ่มพลังตัวละคร ทำยังไงไปดูกัน
World of Dragon Nest เป็นเกมที่มีระบบเยอะมากๆ ให้เราทำ ซึ่งมันจะให้ของตอบแทนเราเป็นแต้ม CP หรือค่าพลังของตัวละครมหาศาล ซึ่งถ้าหากใครหมั่นทำอัพเกรดอยู่ตลอดบอกเลยว่าสเตตัสของคุณนั้นจะไปไกลกว่าชาวบ้านแน่นอน ซึ่งในวันนี้พวกเรา GameFever TH จะมาแนะนำระบบที่สามารถเพิ่มค่าพลังให้กับตัวละครเราได้ จะมีอะไรบ้างไปชมกันเลย 1. ไอเท็มสวมใส่ ไอเท็มสวมใส่เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ และเป็นปัจจัยแรกที่จะช่วยเพิ่มค่าพลังให้เรา รวมถึงมันยังเป็นจุดเริ่มต้นในการเพิ่มพลังของฟังชั่นอื่นๆ ด้วย ซึ่งเราจะต้องหมั่นอัพเกรดไอเท็มตามระดับตามเลเวลตลอดเวลา Nest ใหม่ๆ ปลดล็อคเมื่อไรควรจะต้องทำเซ็ตไอเท็มใหม่ทันที ซึ่งนอกจากการลงดันหาไอเท็มแล้วเราก็สามารถที่จะคราฟของจาก Production ได้อีกด้วย ซึ้งไม่ได้ใช้วัตถุดิบที่ยุ่งยากอะไร ถ้าลง Nest ปกติจะมีโอกาศได้ไอเท็มสวมใส่ 2. Smelting ระบบหลอมไอเท็มที่จะให้พูดง่ายๆ คือการตีบวกไอเท็มนั่นแหละ ซึ่งเราสามารถอัพเกรดเพิ่มสเตตัสให้กับไอเท็มของเราได้เรื่อยๆ ซึ่งไอเท็มที่ใช้หลอมนอกจากอาวุธชนิดเดียวกันแล้ว ก็อาจจะใช้หินต่างๆ ที่หาได้จาก การทำเควสนั่นเอง หรือจะเป็นการ Enchance โดยเราจะต้องไปลงดันเจี้ยน Abyss ด่าน City of Tel Rosa และ Black Garrison base เพื่อเอาหินมาบวกนั่นเอง 3. Dragon Jade เป็นการใส่หินเพิ่มพลังให้กับอาวุธของเรา ซึ่งตัวหินจะมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบคือ สีเขียว (เพิ่มเลือด) สีฟ้า (เพิ่มป้องกัน) สีแดง (เพิ่มการโจมตี) รวมถึงตัว Dragon Jade ยังสามารถที่จะอัพเกรดเพิ่มเลเวลได้ และเพิ่มระดับของเพชรให้สูงขึ้นได้ หรือจะเป็นการ Awakening ที่จะหาหินจาก Nest Hell มาอัพเกรดเพิ่มสเตตัสได้อีกด้วย ซึ่งตัว Dragon Jade นี้เป็นหนึ่งในฟังชั่นหลักที่จะเพิ่มค่าพลังของเราได้มากโขเลยทีเดียว 4. อ้พ Skill สกิลต่างๆ เราจะสามารถอัพขั้นได้ตามเลเวล ซึ่งตัวสกิลนี้มีสกิลมากๆ ในการโจมตีหรือป้องกัน รวมถึงยังมีการอัพสกิล Passive ต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มความสามารถอีกมากมาย โดยคุณจะต้องหมั่นลงดันเจี้ยน Abyss อย่าง Ancient Catacomb และ Forgotten Past Road เพื่อนำแต้มอัพสกิลมาใช้นั่นเอง 5. สัตว์ขี่ และสัตว์เลี้ยง ถึงแม้ว่าสัตว์ขี่และสัตว์เลี้ยงของเราอาจจะมาช่วยเราโจมตีไม่ได้ แต่สัตว์พวกนี้สามารถเพิ่มสเตตัสให้เราเก่งขึ้นนั่นเอง โดยการได้ค่าพลังที่สูงก็ขึ้นอยู่กับระดับของสัตว์ และการให้อาหารให้เลเวลสูงขึ้นนั่นเอง ซึ่งทุกๆ วันตัวเกมจะให้คุณสุ่มสัตว์ขี่ฟรีอยู่แล้ว ซึ่งเราสามารถเก็บเศษชิ้นส่วนสัตว์ดีๆ หมั่นให้อาหารโดยการคราฟอาหารมาให้สัตว์กินเพื่อเพิ่มเลเวล ค่าพลังของเราก็จะเพิ่มด้วยเช่นกัน สามารถคราฟอาหารและให้กับสัตว์เลี้ยงและสัตว์ขี่เราได้ 6. Coustume อันนี้สำหรับคนที่มีฐานะการเงินที่ดีหน่อย และอยากจะได้เปรียบในช่วงต้นเกม การซื้อคอสตูมมาใช้ ก็จะช่วยเพิ่มค่าพลังโจมตีให้คุณในระดับหนึ่งเลยทีเดียว แต่ข้อเสียคือตัวชุดอาจจะมีราคาแพงหน่อย แต่สำหรับคนที่เป็นสายฟรีก็ไม่ต้องกลัวเพราะว่าชุดพวกนี้อาจจะได้เปรียบในช่วงแรกๆ ในการเก็บเลเวลได้ไวขึ้นนั่นเอง
07 Aug 2019
ไกด์ World of Dragon Nest แนะนำระบบ Dragon Jade ฝังเพชรให้ของสวมใส่ CP ขึ้นบาน
World of Dragon Nest ระบบ Dragon Jade นั้นเป็นระบบที่ฝังเพชรให้กับไอเท็มสวมใส่ๆ ของเราต่างๆ ซึ่งบอกเลยว่าถึงแม้ว่ามันอาจจะเป็นระบบที่ยุ่งยาก แต่ถ้าอัพเกรดดีๆ แล้วมันสามารถเพิ่มสเตตัสให้คุณได้อย่างมากโขเลยทีเดียว ซึ่งในวันนี้พวกเรา GameFever TH จะมาแนะนำระบบนี้ให้ทุกท่านได้ทราบกันครับ โดยหลักๆ ฟังชั่นของระบบ Dragon Jade มีอยู่ด้วยกัน 4 แบบคือ 1. Equip Dragon Jade เป็นระบบที่เราสามารถใส่ Dragon Jade เข้าไปในไอเท็มสวมใส่ของเราได้โดยจะสามารถแบ่งเพชรเป็น 3 แบบคือสีแดง (+ATK), สีฟ้า (+DEF), สีเขียว (+ATK) 2. Grow Dragon Jade ระบบเพิ่มเลเวลให้กับ Dragon Jade ของเรา โดยการเพิ่มเลเวลจะใช้เพชร Dragon Jade สีเดียวกันอีกอัน หรือใช้เศษที่หาได้จาก Nest Hell หรือเควสทั่วไปได้ และถ้าเราอัพเลเวลจนตันเลเวล 2 เราสามารถ Evolution ได้โดยใช้หินที่จะดรอปจากเควสหรือบอสตามเควสต่างๆ ซึ่งจะทำให้ Dragon Jade เป็นระดับต่อไป เลื่อนขั้นเรียบร้อยจ้า ~♥ ซึ่งพอเลื่อนขั้นแล้ว เราก็สามารถอัพให้เลเวล 2 ตัน ก็จะสามารถอัพขั้นต่อไปได้อีกด้วย 3. Awaken Dragon Jade เป็นการเพิ่มสเตตัวรูปแบบหนึ่งที่เราจะต้องไปหาหิน Awakening จาก Nest Hell ต่างๆ ซึ่งตรงฟังชั่นนี้สำคัญมากๆ เพราะเป็นจะเพิ่ม CP ของเราสูงเป็นอย่างมาก เพราะมันจะบวกสเตตัสเป็นขั้นบันไดไปเรื่อยๆ 4. Dragon Jade Grinding เป็นการเพิ่มออฟให้กับ Dragon Jade ของเรา ซึ่งจะใช้หิน Evolution ในการอัพ และถ้าหินยิ่งระดับสูงเราจะสามารถสวมใส่ออฟได้มากขึ้น พร้อมทั้งตัวออฟนั้นจะมีหลายระดับเราสามารถรีเปลี่ยนออฟได้เรื่อยๆ โดยจะสูงสุดคือขั้น SSS เลยทีเดียว ซึ่งปัจจัยหลักที่จะทำให้เราเก่งขึ้นด้วยระบบนี้ก็ขึ้นอยู่ในจำนวนรอบในการลง Nest Hell ของทุกท่าน ซึ่งมันจะช่วยเป็นอย่างมากที่เราจะได้เศษเพชร หรือหิน Awakening นั่นเอง ติดตามข่าวสารวงการเกม Facebook : LINK Youtube : LINK
06 Aug 2019
ไกด์ World of Dragon Nest แนะนำอาชีพทั้ง 4 และสายการเล่น
World of Dragon Nest เป็นเกมที่ระบบอาชีพมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก รวมถึงแต่ละสายอาชีพสามารถแบ่งออกเป็นสองสายอีกด้วย ซึ่งในวันนี้พวกเรา GameFever TH จะมาแนะนำทั้ง 4 อาชีพของเกมนี้ และสายอาวุธต่างๆ ที่เล่นได้กันครับ Warrior อาชีพนักดาบที่ทุกเกมจะต้องมี โดยจุดเด่นของอาชีพนี้จะเน้นการต่อสู้ระยะประชิด มีค่าพลังชีวิตและพลังโจมตีที่มากพอจะสามารถจัดการกับค่าพลังป้องกันจากศัตรูได้ สายการเล่น สายดาบ - จะเน้นการโจมตีแบบ DPS โจมตีดาเมจเป็นชุดๆ มีความว่องไวในการโจมตี 2. สายขวาน - จะมีการโจมตีที่ช้า แต่จะเน้นดาเมจที่สูง หรือสกิลจะเน้นการโจมตีแบบ 1 Hit ซึ่งจะเหมาะในการ PVP อีกด้วยที่จะสามารถทำให้ศัตรูล้ม หรือตัดแอนิเมชั่นศัตรู Archer เป็นอาชีพที่มีความเร็วโจมตีสูงที่สุดในเกม สามารถโจมตีศัตรูจากระยะไกลได้ มีความยืดหยุ่นและความคล่องตัวสูง ศัตรูเข้าใกล้ตัวได้ยากอีกด้วย สายการเล่น 1. สายธนู - เด่นในเรื่องการโจมตีระยะไกล และพลังโจมตีที่รุนแรง เหมาะในการลงดันเจี๊ยนและเก็บเลเวล 2. สายหน้าไม้ - เด่นในเรื่องความเร็วการโจมตี มีสกิลสตั๊นเหมาะในการ PVP มากกว่า Cleric อาชีพพระที่ทุกตี้ขาดไม่ได้ เพราะอาชีพนี้จะมีจุดเด่นในเรื่องของการบัพพลังป้องกันให้เพื่อน รวมถึงยังมีสกิลฮิลให้เพื่อนร่วมทีมอีกด้วย แต่อาชีพนี้จุดเสียคือมีพลังโจมตีที่เบา แต่ก็สามารถช่วยเหลือได้ทุกสถานะการณ์ สายการเล่น 1. สายกระบอง - จะเน้นการโจมตีกายภาพด้วยกระบอง เน้นการต่อสู้ระยะประชิด มีท่วงท่าการออกสกิลที่รวดเร็วต่อคอมโบได้ไว 2. สายคฑา - สายที่เน้นการป้องกัน และการโจมตีระยะไกล เหมาะในการโจมตีมอสเตอร์เป็นกลุ่ม ท่วงท่าการออกสกิลจะช้ากว่าสายกระบอง Sorcerror สายเวทที่มีสกิลในการโจมตีไกลที่รุนแรง เป็นอาชีพที่สามารถทำดาเมจแนวหลังให้เพื่อนร่วมทีมได้ดีเยี่ยม แต่มีข้อเสียคือการร่ายสกิลอาจจะช้ากว่าสายอื่น สายการเล่น 1. สาย Elemental - เป็นสายที่เน้นปล่อยสกิลแบบ Brust Damage โจมตีศัตรูแรงๆ เน้นการโจมตีระยะไกลเป็นหลัก 2. สาย Force - สายที่เน้นการโจมตีระยะกลางและใกล้ มีสกิลในการดีบัพและสกิล CC เยอะเหมาะในการต่อสู้ 1-1  
05 Aug 2019
World of Dragon Nest เปิดให้ลงทะเบียน Closed Beta บน Android แล้ว
World of Dragon Nest เกมมือถือแนว MMORPG จาก Nexon ที่เปิดให้เราเดินตีมอนเก็บเวลบนโลก Open World ลงทะเบียนเข้าเล่นรอบ Closed Beta Test ได้แล้ววันนี้ บน Android เท่านั้น โดยจุดเด่นของเกมนี้คือ เปลี่ยนจากเกม Action RPG ไปเป็น MMORPG Open World ที่สามารถออกผจญภัยได้อย่างอิสระ, เรื่องราวน่าติดตาม, คงความ Action ต้นฉบับแม้มาลงมือถือและระบบ Siege War สงครามกิลด์ขนาดใหญ่ขนาด 200 คน ร่วมมือกันต่อสู้เพื่อเป็นกิลด์อันดับ 1 > ตามไปกดลงทะเบียนได้ที่นี่ < รายละเอียดการเข้าร่วม CBT การเข้าร่วม CBT จะจำกัดผู้เข้าร่วมทดสอบเพียง 30,000 คนเท่านั้น อีเมลที่ลงทะเบียนต้องเป็นบัญชี Google Play การทดสอบจะเปิดให้ทดสอบบนระบบ Android เท่านั้น การทดสอบนี้เพื่อทดสอบเกี่ยวกับการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์และระบบต่างๆ ตาราง ลงทะเบียน: 24 - 30 ก.ค. 2562 เปิดให้เล่น: 1 - 7 ส.ค. 2562 เปิดให้ทดลองระบบ PvP: 6 - 7 ส.ค. 2562 เปิดให้ทดลองระบบ Cash Shop: 6 - 7 ส.ค. 2562 (มีเพชรฟรีให้เพื่อเทสระบบ) หมายเหตุ เมื่อสิ้นสุดการทดสอบในช่วง CBT ทีมงานจะทำการรีเซ็ทข้อมูลภายในเกมทั้งหมด ในช่วง CBT จะไม่สามารถเติมเงินเข้าระบบได้ ในช่วง CBT ผู้เล่นอาจพบปัญหาในการเข้าเล่น รวมถึงบัคต่าง ๆ ที่อาจมีอยู่ในเกม ทางทีมงานต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ อ้างอิง: nexon
24 Jul 2019
World of Dragon Nest โลกแห่งมังกรที่ชาว RPG ไม่ควรพลาด (สัมผัสแรก)
World of Dragon Nest (iOS / Android) เกม MMORPG ภาคล่าสุดของซีรีส์ดราก้อนเนสกำลังจะเปิดให้บริการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นที่แรกเร็วๆ นี้ ซึ่งทาง GameFever เองก็ได้รับเชิญจากบริษัท Nexon Thailand ให้เข้าร่วม ทดสอบย่อย ทดลองเล่นเกมก่อนเปิดจริงด้วย สำหรับผมที่ไม่เคยเล่นเกมในซีรีส์ดราก้อนเนสมาก่อน ต้องบอกเลยว่าเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่น่าประทับใจทีเดียว ผมคงไม่สามารถพูดในฐานะของแฟนซีรีส์นี้ได้ แต่ในฐานะของคนที่กำลังมองหาเกม MMORPG บนมือถือดีๆ เล่นอยู่ บอกได้เลยว่า World of Dragon Nest คือเกมที่ห้ามพลาดสำหรับปีนี้ทีเดียว โลกกว้างใหญ่น่าค้นหา โลกของ World of Dragon Nest เป็นโลกแบบ Open World ที่เน้นความกว้างใหญ่ของแผนที่และความมีชีวิตชีวาของสภาพแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตภายในฉาก แม้จะไม่ได้กว้างใหญ่แบบไร้รอยต่อแบบเกมคอนโซล ยังมีการเปลี่ยนฉากโดยแบ่งเป็นเขตแผนที่ใหญ่ๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าโลกของเกมนี้ทำให้เรารู้สึกว่านี่คืออีกโลกหนึ่งจริงๆ หลายๆ จุดเห็นแล้วก็อยากหยุดชมวิว หยุดนั่งพักใต้ต้นไม้ แม้แต่กับคนที่เห็นภาพสวยๆ จากเกมคอนโซลจนชินตาก็ตาม และด้วยขนาดของแผนที่ที่กว้างใหญ่เลยทำให้ระบบยานพาหนะหรือสัตว์ขี่ของเกมนี้มีความสำคัญขึ้นมา เพราะเราสามารถอัพเลเวลของเจ้าพวกนี้ให้วิ่งเร็วขึ้น พาเราไปถึงที่หมายได้เร็วขึ้น สัตว์ขี่มากมายให้เลือกใช้ (จิ้งจอกเก้าหาง ม้าขนปุย มังกรจีน) แม้ระบบสัตว์เลี้ยงของเกมนี้จะยังทำมาไม่ถูกใจผมเท่าไหร่ (คงต้องรอดูว่าระบบผสมพันธ์ุสัตว์เพื่อหาสัตว์ตัวใหม่ๆ จะทำออกมาได้ดีแค่ไหน) แต่ระบบสัตว์ขี่นี่ทำให้ยิ้มได้ทีเดียวครับ เพราะสัตว์เลี้ยงตัวแรกที่เกมให้เป็นม้าขนปุยที่ทั้งเท่และน่ารักสุดๆ เรียกว่าอยากขี่มันตลอดเวลาถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากลงไปวิ่งเลยทีเดียว สัตว์ขี่ตัวอื่นๆ นั้นสามารถได้มาด้วยระบบสุ่มกาชา ถ้าสุ่มแล้วจะได้เศษมา เมื่อเก็บเศษจนครบจึงจะได้ตัวอื่นๆ มาใช้ ผมเองไม่ชอบระบบสุ่มแบบนี้เท่าไหร่ ก็หวังว่าจะมีกิจกรรมหรือทางเลือกอื่นๆ ที่ทำให้เราได้สัตว์ขี่ที่หมายปองมาใช้ชัวร์ๆ ซึ่งบอกเลยว่ามีให้เลือกมากมายครับ มีทั้งเมฆ ทั้งมอเตอร์ไซค์ จิ้งจอกเก้าหาง ไปจนถึงมังกรจีนกันเลย และด้วยความที่เราสามารถอัพเลเวลให้สัตว์ขี่ของเราเก่งขึ้นได้ ด้วยการให้อาหาร เลยช่วยทำให้เราผูกพันกับเจ้าสัตว์ขี่พวกนี้มากขึ้นด้วยครับ (ผมไม่แน่ใจว่าถ้าเราใช้มอเตอร์ไซค์เราจะยังให้หญ้ากินเพื่อเพิ่มเลเวลแบบเจ้าม้าขนปุยได้ไหม) ระบบต่อสู้ที่เน้นฝีมือจริงๆ เท่าที่ผมคุยกับเพื่อนร่วมงานอย่าง SuckGameMike (ที่โผล่มาในโฆษณาเกมที่หลายๆ คนรำคาญกันนั่นแหละครับ) ดูเหมือนว่าคนที่เป็นแฟน Dragon Nest จะคุ้นเคยกับระบบต่อสู้ที่เน้นการใช้ฝีมือกันอยู่แล้ว โดยระบบที่ว่าเป็นแบบนี้ครับ การทำภารกิจ การต่อสู้กับมอนสเตอร์ทั่วๆ ไป เกมจะมีระบบผ่านเควส ระบบต่อสู้อัตโนมัติ เช่นเดียวกับเกมมือถือทั่วๆ ไป ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องใช้ฝีมืออะไรนัก แต่หากเราต้องการบังคับเอง เกมก็มีปุ่มให้เราสามารถโจมตีและหลบการโจมตีได้ครับ และยังมีท่าพิเศษให้ใช้หลังจากหลบการโจมตีแล้วด้วย การหลบนี่จะมีความสำคัญขึ้นมาเมื่อเราเจอบอสยากๆ หน่อยครับ โดยเกมจะบอกเลเวลที่แนะนำและค่าพลังต่อสู้ (CP) ที่แนะนำในการผ่านภารกิจ แต่หากเราฝึกฝนการบังคับด้วยตัวเองจนเก่งแล้วเนี่ย เราก็สามารถผ่านเกมได้ทั้งๆ ที่เลเวลหรือค่าพลังต่อสู้ยังไม่เท่าที่เกมแนะนำด้วยซ้ำ ทำให้เราผ่านภารกิจเร็วกว่า เก่งเร็วกว่าคนอื่นๆ ที่อาจใช้เวลาเล่นมากกว่าแต่ไม่ได้ฝึกฝนการต่อสู้ด้วยตัวเองเท่าไหร่ ด้วยระบบต่อสู้แบบบังคับด้วยตัวเองที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดี และท่วงท่าในการต่อสู้ที่ทำออกมาได้ลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นการหลบ การโจมตี หรือการใช้สกิล ทำให้การต่อสู้ระหว่างผู้เล่นด้วยกันเอง (PvP)  นั้นมีความน่าสนใจมากๆ แม้ตอนที่ได้ทดสอบเกมจะยังไม่ได้ลองสู้กับผู้เล่นจริงๆ เพราะหาคนเล่นด้วยไม่เจอ แต่การได้สู้กับบอทที่สนุกมากๆ ก็ทำให้อยากลองสู้กับผู้เล่นจริงๆ เมื่อเกมเปิดเร็วๆ เลย เนื้อเรื่องและภารกิจที่น่าติดตาม สำหรับผู้เล่นน่าใหม่อย่างผมเรียกว่าต้องปรับตัวกันนิดหน่อย เพราะเกมเปิดมาด้วยคัตซีนเล่าเรื่องที่ดูเหมือนจะอิงตัวละครและเนื้อเรื่องมาจากเกมภาคเก่าๆ ซึ่งเป็นธรรมดาที่จะสร้างความสับสนให้กับคนที่ไม่เคยเล่นมาก่อน แต่การเล่าเรื่องและแนะนำตัวละครผ่านภารกิจต่างๆ ของเกมนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีครับ เกมเล่าเรื่องด้วยตัวหนังสือ ผ่านบทสนทนา และเลือกเล่าเรื่องด้วยคัตซีนในฉากสำคัญต่างๆ สิ่งที่ผมชอบในระบบภารกิจของเกมนี้คือการที่ภารกิจหลักของเกมจะพาเราไปสำรวจแผนที่ของเกมและตัวละครต่างๆ อย่างทั่วถึง เนื้อเรื่องของเกมจะแบ่งเป็นบท โดยส่วนใหญ่แล้วเนื้อเรื่องบทหนึ่งก็จะให้เราใช้เวลาในแผนที่หนึ่งไปเลย ซึ่งเราจะได้เดินทางและสัมผัสกับมอนสเตอร์แทบทุกตัวในแผนที่นั้น ช่วยทำให้เราคุ้นเคยกับแผนที่  มอนเสตอร์ และ NPC ของเกม ซึ่งถือเป็นจุดเด่นต่างกับอีกหลายๆ เกมที่มีแผนที่ใหญ่แต่ผู้เล่นไม่ได้มีความคุ้นเคยกับแผนที่และตัวละครจริงๆ ผมรู้สึกว่าภารกิจและเนื้อเรื่องในช่วงประมาณเลเวล 20 ถึง 25 ค่อนข้างมีความจำเจและอืดอาดไปบ้าง แต่ความต่อเนื่องในช่วงเริ่มเกมถือว่าทำได้ดีจนเทียบชั้นกับเกมเล่นคนเดียวได้สบายๆ เพราะในช่วงทดสอบก็ไม่ค่อยได้พบผู้เล่นคนอื่นอยู่แล้ว แต่ลำพังภารกิจหลักของเกมก็สามารถทำให้เล่นคนเดียวได้เป็นวันๆ ระบบคราฟของสร้างอาวุธใช้เอง อาวุธและชุดเกราะของเกมนี้เท่าที่ได้ลองเล่นดูจะได้มาจากการสร้างเองเป็นหลักครับ โดยวัตถุดิบจะได้มาจากการเก็บเกี่ยวเอาในแผนที่และการลงดันเจี้ยน เมื่อเราสร้างของบ่อยขึ้นทักษะการสร้างของเราก็จะเพิ่มขึ้น ทำให้สร้างอาวุธและชุดเกราะดีๆ ในขั้นต่อไปได้ ข้อดีของระบบนี้ก็คือความผูกพันที่เรามีต่อของที่เราสร้างใช้เอง แทนที่จะเปลี่ยนอาวุธบ่อยๆ ไปใช้ของที่มีพลังเป็นหมื่นๆ ของแพงๆ จนอาวุธที่ได้มาแต่ละชิ้นไม่ค่อยมีความสำคัญเท่าไหร่ การสร้างเองแบบนี้ทำให้อาวุธแต่ละชิ้นเราได้ใช้ไปนานๆ แน่ๆ แถมเรายังติดเพชรเพิ่มความสามารถได้อีก แต่ข้อเสียก็อาจจะมีตรงที่ความหลากหลายของอาวุธและชุดเกราะของผู้เล่นแต่ละคนอาจไม่ได้มากเท่าไหร่ คงต้องรอดูในเลเวลสูงๆ ว่าจะมีอะไรที่แปลกใหม่กว่านี้หรือไม่ ระบบใช้ชีวิตสนุกๆ มีอะไรให้ทำมากมาย (ตกปลา แช่น้ำร้อน ปลูกผัก) ระบบการใช้ชีวิตของเกมนี้มีตั้งแต่ตกปลา ทำฟาร์ม ทำประมง แช่น้ำร้อน ใครที่ชอบกิจกรรมอะไรแบบนี้น่าจะถูกใจแน่นอน เท่าที่ผมลองเล่นนั้น ระบบที่ผมใช้หลักๆ ก็คือการทำฟาร์มเพื่อเอาผักมาทำยา เพราะถ้าเราเลือกที่จะเก็บผักพวกนี้เอาตามแผนที่นั้น เก็บครั้งนึงก็ได้แค่ 1 ต้น แต่การทำฟาร์ม หว่านเมล็ด แล้วไปทำอย่างอื่นรอเวลาให้ผักโต กลับมาอีกทีเก็บผักได้เป็น 10 ต้น คุ้มกว่าการที่ต้องมาวิ่งเก็บผักทีละต้นเยอะ ไม่แน่ใจว่าระบบแลกเปลี่ยนของเกมนี้จะทำให้เราเก็บผักทำยาขายเพื่อเอาเงินมาแลกอาวุธกับคนที่เน้นไปทางด้านการสร้างของได้หรือเปล่า แต่ถึงจะไม่ได้ถึงขนาดนั้นระบบใช้ชีวิตนี่ก็ช่วยสร้างความเป็นโลกอีกใบให้กับ World of Dragon Nest ได้ดีเลย โดยรวมแล้วแม้ World of Dragon Nest จะมีจุดที่ขัดใจผมอยู่บ้าง แต่อีกหลายๆ ส่วนก็ทำให้สนุกจนติดหนึบทีเดียวครับ แม้ทาง Nexon Thailand จะบอกว่าตัวที่ให้ทดสอบยังไม่สมบูรณ์ แต่เท่าที่เล่นดูก็แทบไม่พบปัญหาอะไรเลย และเท่าที่ดูจากตารางเกมมือถือที่จะออกในปีนี้แล้ว ถ้าไม่มีเซอร์ไพรส์อะไรเป็นพิเศษ ถ้าไม่มีเกมใหญ่ๆ เปิดตัวออกมาอย่างกะทันหัน เกมนี้ก็เป็นเกมในหมวด MMORPG ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ ติดตามวันเปิดลงทะเบียนและวันเปิดเซิร์ฟเวอร์ได้จากเพจหลักของเกมได้เลย (facebook.com/wodthpage)
22 Jul 2019
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "World of Dragon Nest"
World of Dragon Nest เปิดลงทะเบียนล่วงหน้า รับสัตว์ขี่พิเศษ ฟรี! 8 ม.ค. นี้เจอกัน
ประกาศวันลงทะเบียนล่วงหน้าแล้ว สำหรับ World of Dragon Nest เกมมือถือ MMORPG Open World พัฒนาโดย Eyedentity Games ซึ่งเป็นทีมผู้พัฒนาทีมเดียวกับ Dragon Nest Online เวอร์ชั่น PC โดย World of Dragon Nest นี้เป็นเวอร์ชั่นมือถือ และจะให้บริการโดย Nexon Thailand สามารถลงทะเบียนเพื่อรับของรางวัลสุดพรีเมียมมูลค่ากว่า 1,500 บาท พร้อมสัตว์ขี่สุดพิเศษฟรี! ตั้งแต่วันนี้ – 7 ม.ค. 2020 และเกมจะเปิดให้บริการ 8 ม.ค. นี้แน่นอน ทั้ง iOS และ Android โดยการลงทะเบียนล่วงหน้านั้นจะเปิดให้ลงทะเบียน 2 ส่วน ได้แก่ 1. ลงทะเบียนที่ App Store หรือ Google Play Store (แนะนำ) ลงทะเบียนผ่านช่องทางนี้ไว้เพื่อไม่ให้พลาดการแจ้งเตือน และสิทธิพิเศษก่อนใครเมื่อเกมเปิดให้ดาวน์โหลด และรับสัตว์ขี่สุดพรีเมียม ฟรี! มูลค่ากว่า 1,500 บาท iOS: http://bit.ly/WOD-iOS Android: เร็วๆ นี้ 2. ลงทะเบียนที่หน้าเว็บไซต์ เพื่อร่วมสนุกกิจกรรมและรับของรางวัลมากมาย https://wod.nexon.com นอกจากนี้ยังมี กิจกรรมนักล่ารางวัล หรือ Reward Hunter Event เพียงแค่กดไลค์แฟนเพจ World of Dragon Nest ครบตามจำนวนที่กำหนด รับของรางวัลสุดพิเศษยกเซิร์ฟ! อีกทั้ง World of Dragon Nest ยังมีระบบที่เพิ่มเข้ามาใหม่ เช่น การรองรับภาพที่ 60 FPS, Dark Nest ใหม่, Sea Dragon Nest, เอฟเฟกต์อาวุธใหม่สุดจี๊ดจ๊าด, รีเซตสกิลได้, ระบบ Seal skill, สถานะผิดปกติที่แสดงผลชัดเจนขึ้นในโหมด PvP, ระบบเควสฉุกเฉิน, 3 Nest ใหม่, มอนสเตอร์สามารถบล็อกการโจมตีได้ และเนื้อเรื่องบทที่ 3 ที่ให้คุณได้ออกผจญภัยได้อย่างตื่นเต้นเร้าใจยิ่งขึ้น และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้อย่างลึกซึ้งมากกว่าเดิม ด้วยฟีเจอร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาพิเศษสำหรับเกมเวอร์ชั่นนี้โดยเฉพาะ ติดตามข้อมูลข่าวสารและอัปเดตของเกม World of Dragon Nest ได้ที่ Facebook เพจหลัก www.fb.com/wodthpage
23 Dec 2019
ไกด์ World of Dragon Nest อยากเพิ่มพลังตัวละคร ทำยังไงไปดูกัน
World of Dragon Nest เป็นเกมที่มีระบบเยอะมากๆ ให้เราทำ ซึ่งมันจะให้ของตอบแทนเราเป็นแต้ม CP หรือค่าพลังของตัวละครมหาศาล ซึ่งถ้าหากใครหมั่นทำอัพเกรดอยู่ตลอดบอกเลยว่าสเตตัสของคุณนั้นจะไปไกลกว่าชาวบ้านแน่นอน ซึ่งในวันนี้พวกเรา GameFever TH จะมาแนะนำระบบที่สามารถเพิ่มค่าพลังให้กับตัวละครเราได้ จะมีอะไรบ้างไปชมกันเลย 1. ไอเท็มสวมใส่ ไอเท็มสวมใส่เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ และเป็นปัจจัยแรกที่จะช่วยเพิ่มค่าพลังให้เรา รวมถึงมันยังเป็นจุดเริ่มต้นในการเพิ่มพลังของฟังชั่นอื่นๆ ด้วย ซึ่งเราจะต้องหมั่นอัพเกรดไอเท็มตามระดับตามเลเวลตลอดเวลา Nest ใหม่ๆ ปลดล็อคเมื่อไรควรจะต้องทำเซ็ตไอเท็มใหม่ทันที ซึ่งนอกจากการลงดันหาไอเท็มแล้วเราก็สามารถที่จะคราฟของจาก Production ได้อีกด้วย ซึ้งไม่ได้ใช้วัตถุดิบที่ยุ่งยากอะไร ถ้าลง Nest ปกติจะมีโอกาศได้ไอเท็มสวมใส่ 2. Smelting ระบบหลอมไอเท็มที่จะให้พูดง่ายๆ คือการตีบวกไอเท็มนั่นแหละ ซึ่งเราสามารถอัพเกรดเพิ่มสเตตัสให้กับไอเท็มของเราได้เรื่อยๆ ซึ่งไอเท็มที่ใช้หลอมนอกจากอาวุธชนิดเดียวกันแล้ว ก็อาจจะใช้หินต่างๆ ที่หาได้จาก การทำเควสนั่นเอง หรือจะเป็นการ Enchance โดยเราจะต้องไปลงดันเจี้ยน Abyss ด่าน City of Tel Rosa และ Black Garrison base เพื่อเอาหินมาบวกนั่นเอง 3. Dragon Jade เป็นการใส่หินเพิ่มพลังให้กับอาวุธของเรา ซึ่งตัวหินจะมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบคือ สีเขียว (เพิ่มเลือด) สีฟ้า (เพิ่มป้องกัน) สีแดง (เพิ่มการโจมตี) รวมถึงตัว Dragon Jade ยังสามารถที่จะอัพเกรดเพิ่มเลเวลได้ และเพิ่มระดับของเพชรให้สูงขึ้นได้ หรือจะเป็นการ Awakening ที่จะหาหินจาก Nest Hell มาอัพเกรดเพิ่มสเตตัสได้อีกด้วย ซึ่งตัว Dragon Jade นี้เป็นหนึ่งในฟังชั่นหลักที่จะเพิ่มค่าพลังของเราได้มากโขเลยทีเดียว 4. อ้พ Skill สกิลต่างๆ เราจะสามารถอัพขั้นได้ตามเลเวล ซึ่งตัวสกิลนี้มีสกิลมากๆ ในการโจมตีหรือป้องกัน รวมถึงยังมีการอัพสกิล Passive ต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มความสามารถอีกมากมาย โดยคุณจะต้องหมั่นลงดันเจี้ยน Abyss อย่าง Ancient Catacomb และ Forgotten Past Road เพื่อนำแต้มอัพสกิลมาใช้นั่นเอง 5. สัตว์ขี่ และสัตว์เลี้ยง ถึงแม้ว่าสัตว์ขี่และสัตว์เลี้ยงของเราอาจจะมาช่วยเราโจมตีไม่ได้ แต่สัตว์พวกนี้สามารถเพิ่มสเตตัสให้เราเก่งขึ้นนั่นเอง โดยการได้ค่าพลังที่สูงก็ขึ้นอยู่กับระดับของสัตว์ และการให้อาหารให้เลเวลสูงขึ้นนั่นเอง ซึ่งทุกๆ วันตัวเกมจะให้คุณสุ่มสัตว์ขี่ฟรีอยู่แล้ว ซึ่งเราสามารถเก็บเศษชิ้นส่วนสัตว์ดีๆ หมั่นให้อาหารโดยการคราฟอาหารมาให้สัตว์กินเพื่อเพิ่มเลเวล ค่าพลังของเราก็จะเพิ่มด้วยเช่นกัน สามารถคราฟอาหารและให้กับสัตว์เลี้ยงและสัตว์ขี่เราได้ 6. Coustume อันนี้สำหรับคนที่มีฐานะการเงินที่ดีหน่อย และอยากจะได้เปรียบในช่วงต้นเกม การซื้อคอสตูมมาใช้ ก็จะช่วยเพิ่มค่าพลังโจมตีให้คุณในระดับหนึ่งเลยทีเดียว แต่ข้อเสียคือตัวชุดอาจจะมีราคาแพงหน่อย แต่สำหรับคนที่เป็นสายฟรีก็ไม่ต้องกลัวเพราะว่าชุดพวกนี้อาจจะได้เปรียบในช่วงแรกๆ ในการเก็บเลเวลได้ไวขึ้นนั่นเอง
07 Aug 2019
ไกด์ World of Dragon Nest แนะนำระบบ Dragon Jade ฝังเพชรให้ของสวมใส่ CP ขึ้นบาน
World of Dragon Nest ระบบ Dragon Jade นั้นเป็นระบบที่ฝังเพชรให้กับไอเท็มสวมใส่ๆ ของเราต่างๆ ซึ่งบอกเลยว่าถึงแม้ว่ามันอาจจะเป็นระบบที่ยุ่งยาก แต่ถ้าอัพเกรดดีๆ แล้วมันสามารถเพิ่มสเตตัสให้คุณได้อย่างมากโขเลยทีเดียว ซึ่งในวันนี้พวกเรา GameFever TH จะมาแนะนำระบบนี้ให้ทุกท่านได้ทราบกันครับ โดยหลักๆ ฟังชั่นของระบบ Dragon Jade มีอยู่ด้วยกัน 4 แบบคือ 1. Equip Dragon Jade เป็นระบบที่เราสามารถใส่ Dragon Jade เข้าไปในไอเท็มสวมใส่ของเราได้โดยจะสามารถแบ่งเพชรเป็น 3 แบบคือสีแดง (+ATK), สีฟ้า (+DEF), สีเขียว (+ATK) 2. Grow Dragon Jade ระบบเพิ่มเลเวลให้กับ Dragon Jade ของเรา โดยการเพิ่มเลเวลจะใช้เพชร Dragon Jade สีเดียวกันอีกอัน หรือใช้เศษที่หาได้จาก Nest Hell หรือเควสทั่วไปได้ และถ้าเราอัพเลเวลจนตันเลเวล 2 เราสามารถ Evolution ได้โดยใช้หินที่จะดรอปจากเควสหรือบอสตามเควสต่างๆ ซึ่งจะทำให้ Dragon Jade เป็นระดับต่อไป เลื่อนขั้นเรียบร้อยจ้า ~♥ ซึ่งพอเลื่อนขั้นแล้ว เราก็สามารถอัพให้เลเวล 2 ตัน ก็จะสามารถอัพขั้นต่อไปได้อีกด้วย 3. Awaken Dragon Jade เป็นการเพิ่มสเตตัวรูปแบบหนึ่งที่เราจะต้องไปหาหิน Awakening จาก Nest Hell ต่างๆ ซึ่งตรงฟังชั่นนี้สำคัญมากๆ เพราะเป็นจะเพิ่ม CP ของเราสูงเป็นอย่างมาก เพราะมันจะบวกสเตตัสเป็นขั้นบันไดไปเรื่อยๆ 4. Dragon Jade Grinding เป็นการเพิ่มออฟให้กับ Dragon Jade ของเรา ซึ่งจะใช้หิน Evolution ในการอัพ และถ้าหินยิ่งระดับสูงเราจะสามารถสวมใส่ออฟได้มากขึ้น พร้อมทั้งตัวออฟนั้นจะมีหลายระดับเราสามารถรีเปลี่ยนออฟได้เรื่อยๆ โดยจะสูงสุดคือขั้น SSS เลยทีเดียว ซึ่งปัจจัยหลักที่จะทำให้เราเก่งขึ้นด้วยระบบนี้ก็ขึ้นอยู่ในจำนวนรอบในการลง Nest Hell ของทุกท่าน ซึ่งมันจะช่วยเป็นอย่างมากที่เราจะได้เศษเพชร หรือหิน Awakening นั่นเอง ติดตามข่าวสารวงการเกม Facebook : LINK Youtube : LINK
06 Aug 2019
ไกด์ World of Dragon Nest แนะนำอาชีพทั้ง 4 และสายการเล่น
World of Dragon Nest เป็นเกมที่ระบบอาชีพมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก รวมถึงแต่ละสายอาชีพสามารถแบ่งออกเป็นสองสายอีกด้วย ซึ่งในวันนี้พวกเรา GameFever TH จะมาแนะนำทั้ง 4 อาชีพของเกมนี้ และสายอาวุธต่างๆ ที่เล่นได้กันครับ Warrior อาชีพนักดาบที่ทุกเกมจะต้องมี โดยจุดเด่นของอาชีพนี้จะเน้นการต่อสู้ระยะประชิด มีค่าพลังชีวิตและพลังโจมตีที่มากพอจะสามารถจัดการกับค่าพลังป้องกันจากศัตรูได้ สายการเล่น สายดาบ - จะเน้นการโจมตีแบบ DPS โจมตีดาเมจเป็นชุดๆ มีความว่องไวในการโจมตี 2. สายขวาน - จะมีการโจมตีที่ช้า แต่จะเน้นดาเมจที่สูง หรือสกิลจะเน้นการโจมตีแบบ 1 Hit ซึ่งจะเหมาะในการ PVP อีกด้วยที่จะสามารถทำให้ศัตรูล้ม หรือตัดแอนิเมชั่นศัตรู Archer เป็นอาชีพที่มีความเร็วโจมตีสูงที่สุดในเกม สามารถโจมตีศัตรูจากระยะไกลได้ มีความยืดหยุ่นและความคล่องตัวสูง ศัตรูเข้าใกล้ตัวได้ยากอีกด้วย สายการเล่น 1. สายธนู - เด่นในเรื่องการโจมตีระยะไกล และพลังโจมตีที่รุนแรง เหมาะในการลงดันเจี๊ยนและเก็บเลเวล 2. สายหน้าไม้ - เด่นในเรื่องความเร็วการโจมตี มีสกิลสตั๊นเหมาะในการ PVP มากกว่า Cleric อาชีพพระที่ทุกตี้ขาดไม่ได้ เพราะอาชีพนี้จะมีจุดเด่นในเรื่องของการบัพพลังป้องกันให้เพื่อน รวมถึงยังมีสกิลฮิลให้เพื่อนร่วมทีมอีกด้วย แต่อาชีพนี้จุดเสียคือมีพลังโจมตีที่เบา แต่ก็สามารถช่วยเหลือได้ทุกสถานะการณ์ สายการเล่น 1. สายกระบอง - จะเน้นการโจมตีกายภาพด้วยกระบอง เน้นการต่อสู้ระยะประชิด มีท่วงท่าการออกสกิลที่รวดเร็วต่อคอมโบได้ไว 2. สายคฑา - สายที่เน้นการป้องกัน และการโจมตีระยะไกล เหมาะในการโจมตีมอสเตอร์เป็นกลุ่ม ท่วงท่าการออกสกิลจะช้ากว่าสายกระบอง Sorcerror สายเวทที่มีสกิลในการโจมตีไกลที่รุนแรง เป็นอาชีพที่สามารถทำดาเมจแนวหลังให้เพื่อนร่วมทีมได้ดีเยี่ยม แต่มีข้อเสียคือการร่ายสกิลอาจจะช้ากว่าสายอื่น สายการเล่น 1. สาย Elemental - เป็นสายที่เน้นปล่อยสกิลแบบ Brust Damage โจมตีศัตรูแรงๆ เน้นการโจมตีระยะไกลเป็นหลัก 2. สาย Force - สายที่เน้นการโจมตีระยะกลางและใกล้ มีสกิลในการดีบัพและสกิล CC เยอะเหมาะในการต่อสู้ 1-1  
05 Aug 2019
World of Dragon Nest เปิดให้ลงทะเบียน Closed Beta บน Android แล้ว
World of Dragon Nest เกมมือถือแนว MMORPG จาก Nexon ที่เปิดให้เราเดินตีมอนเก็บเวลบนโลก Open World ลงทะเบียนเข้าเล่นรอบ Closed Beta Test ได้แล้ววันนี้ บน Android เท่านั้น โดยจุดเด่นของเกมนี้คือ เปลี่ยนจากเกม Action RPG ไปเป็น MMORPG Open World ที่สามารถออกผจญภัยได้อย่างอิสระ, เรื่องราวน่าติดตาม, คงความ Action ต้นฉบับแม้มาลงมือถือและระบบ Siege War สงครามกิลด์ขนาดใหญ่ขนาด 200 คน ร่วมมือกันต่อสู้เพื่อเป็นกิลด์อันดับ 1 > ตามไปกดลงทะเบียนได้ที่นี่ < รายละเอียดการเข้าร่วม CBT การเข้าร่วม CBT จะจำกัดผู้เข้าร่วมทดสอบเพียง 30,000 คนเท่านั้น อีเมลที่ลงทะเบียนต้องเป็นบัญชี Google Play การทดสอบจะเปิดให้ทดสอบบนระบบ Android เท่านั้น การทดสอบนี้เพื่อทดสอบเกี่ยวกับการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์และระบบต่างๆ ตาราง ลงทะเบียน: 24 - 30 ก.ค. 2562 เปิดให้เล่น: 1 - 7 ส.ค. 2562 เปิดให้ทดลองระบบ PvP: 6 - 7 ส.ค. 2562 เปิดให้ทดลองระบบ Cash Shop: 6 - 7 ส.ค. 2562 (มีเพชรฟรีให้เพื่อเทสระบบ) หมายเหตุ เมื่อสิ้นสุดการทดสอบในช่วง CBT ทีมงานจะทำการรีเซ็ทข้อมูลภายในเกมทั้งหมด ในช่วง CBT จะไม่สามารถเติมเงินเข้าระบบได้ ในช่วง CBT ผู้เล่นอาจพบปัญหาในการเข้าเล่น รวมถึงบัคต่าง ๆ ที่อาจมีอยู่ในเกม ทางทีมงานต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ อ้างอิง: nexon
24 Jul 2019
World of Dragon Nest โลกแห่งมังกรที่ชาว RPG ไม่ควรพลาด (สัมผัสแรก)
World of Dragon Nest (iOS / Android) เกม MMORPG ภาคล่าสุดของซีรีส์ดราก้อนเนสกำลังจะเปิดให้บริการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นที่แรกเร็วๆ นี้ ซึ่งทาง GameFever เองก็ได้รับเชิญจากบริษัท Nexon Thailand ให้เข้าร่วม ทดสอบย่อย ทดลองเล่นเกมก่อนเปิดจริงด้วย สำหรับผมที่ไม่เคยเล่นเกมในซีรีส์ดราก้อนเนสมาก่อน ต้องบอกเลยว่าเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่น่าประทับใจทีเดียว ผมคงไม่สามารถพูดในฐานะของแฟนซีรีส์นี้ได้ แต่ในฐานะของคนที่กำลังมองหาเกม MMORPG บนมือถือดีๆ เล่นอยู่ บอกได้เลยว่า World of Dragon Nest คือเกมที่ห้ามพลาดสำหรับปีนี้ทีเดียว โลกกว้างใหญ่น่าค้นหา โลกของ World of Dragon Nest เป็นโลกแบบ Open World ที่เน้นความกว้างใหญ่ของแผนที่และความมีชีวิตชีวาของสภาพแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตภายในฉาก แม้จะไม่ได้กว้างใหญ่แบบไร้รอยต่อแบบเกมคอนโซล ยังมีการเปลี่ยนฉากโดยแบ่งเป็นเขตแผนที่ใหญ่ๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าโลกของเกมนี้ทำให้เรารู้สึกว่านี่คืออีกโลกหนึ่งจริงๆ หลายๆ จุดเห็นแล้วก็อยากหยุดชมวิว หยุดนั่งพักใต้ต้นไม้ แม้แต่กับคนที่เห็นภาพสวยๆ จากเกมคอนโซลจนชินตาก็ตาม และด้วยขนาดของแผนที่ที่กว้างใหญ่เลยทำให้ระบบยานพาหนะหรือสัตว์ขี่ของเกมนี้มีความสำคัญขึ้นมา เพราะเราสามารถอัพเลเวลของเจ้าพวกนี้ให้วิ่งเร็วขึ้น พาเราไปถึงที่หมายได้เร็วขึ้น สัตว์ขี่มากมายให้เลือกใช้ (จิ้งจอกเก้าหาง ม้าขนปุย มังกรจีน) แม้ระบบสัตว์เลี้ยงของเกมนี้จะยังทำมาไม่ถูกใจผมเท่าไหร่ (คงต้องรอดูว่าระบบผสมพันธ์ุสัตว์เพื่อหาสัตว์ตัวใหม่ๆ จะทำออกมาได้ดีแค่ไหน) แต่ระบบสัตว์ขี่นี่ทำให้ยิ้มได้ทีเดียวครับ เพราะสัตว์เลี้ยงตัวแรกที่เกมให้เป็นม้าขนปุยที่ทั้งเท่และน่ารักสุดๆ เรียกว่าอยากขี่มันตลอดเวลาถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากลงไปวิ่งเลยทีเดียว สัตว์ขี่ตัวอื่นๆ นั้นสามารถได้มาด้วยระบบสุ่มกาชา ถ้าสุ่มแล้วจะได้เศษมา เมื่อเก็บเศษจนครบจึงจะได้ตัวอื่นๆ มาใช้ ผมเองไม่ชอบระบบสุ่มแบบนี้เท่าไหร่ ก็หวังว่าจะมีกิจกรรมหรือทางเลือกอื่นๆ ที่ทำให้เราได้สัตว์ขี่ที่หมายปองมาใช้ชัวร์ๆ ซึ่งบอกเลยว่ามีให้เลือกมากมายครับ มีทั้งเมฆ ทั้งมอเตอร์ไซค์ จิ้งจอกเก้าหาง ไปจนถึงมังกรจีนกันเลย และด้วยความที่เราสามารถอัพเลเวลให้สัตว์ขี่ของเราเก่งขึ้นได้ ด้วยการให้อาหาร เลยช่วยทำให้เราผูกพันกับเจ้าสัตว์ขี่พวกนี้มากขึ้นด้วยครับ (ผมไม่แน่ใจว่าถ้าเราใช้มอเตอร์ไซค์เราจะยังให้หญ้ากินเพื่อเพิ่มเลเวลแบบเจ้าม้าขนปุยได้ไหม) ระบบต่อสู้ที่เน้นฝีมือจริงๆ เท่าที่ผมคุยกับเพื่อนร่วมงานอย่าง SuckGameMike (ที่โผล่มาในโฆษณาเกมที่หลายๆ คนรำคาญกันนั่นแหละครับ) ดูเหมือนว่าคนที่เป็นแฟน Dragon Nest จะคุ้นเคยกับระบบต่อสู้ที่เน้นการใช้ฝีมือกันอยู่แล้ว โดยระบบที่ว่าเป็นแบบนี้ครับ การทำภารกิจ การต่อสู้กับมอนสเตอร์ทั่วๆ ไป เกมจะมีระบบผ่านเควส ระบบต่อสู้อัตโนมัติ เช่นเดียวกับเกมมือถือทั่วๆ ไป ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องใช้ฝีมืออะไรนัก แต่หากเราต้องการบังคับเอง เกมก็มีปุ่มให้เราสามารถโจมตีและหลบการโจมตีได้ครับ และยังมีท่าพิเศษให้ใช้หลังจากหลบการโจมตีแล้วด้วย การหลบนี่จะมีความสำคัญขึ้นมาเมื่อเราเจอบอสยากๆ หน่อยครับ โดยเกมจะบอกเลเวลที่แนะนำและค่าพลังต่อสู้ (CP) ที่แนะนำในการผ่านภารกิจ แต่หากเราฝึกฝนการบังคับด้วยตัวเองจนเก่งแล้วเนี่ย เราก็สามารถผ่านเกมได้ทั้งๆ ที่เลเวลหรือค่าพลังต่อสู้ยังไม่เท่าที่เกมแนะนำด้วยซ้ำ ทำให้เราผ่านภารกิจเร็วกว่า เก่งเร็วกว่าคนอื่นๆ ที่อาจใช้เวลาเล่นมากกว่าแต่ไม่ได้ฝึกฝนการต่อสู้ด้วยตัวเองเท่าไหร่ ด้วยระบบต่อสู้แบบบังคับด้วยตัวเองที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดี และท่วงท่าในการต่อสู้ที่ทำออกมาได้ลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นการหลบ การโจมตี หรือการใช้สกิล ทำให้การต่อสู้ระหว่างผู้เล่นด้วยกันเอง (PvP)  นั้นมีความน่าสนใจมากๆ แม้ตอนที่ได้ทดสอบเกมจะยังไม่ได้ลองสู้กับผู้เล่นจริงๆ เพราะหาคนเล่นด้วยไม่เจอ แต่การได้สู้กับบอทที่สนุกมากๆ ก็ทำให้อยากลองสู้กับผู้เล่นจริงๆ เมื่อเกมเปิดเร็วๆ เลย เนื้อเรื่องและภารกิจที่น่าติดตาม สำหรับผู้เล่นน่าใหม่อย่างผมเรียกว่าต้องปรับตัวกันนิดหน่อย เพราะเกมเปิดมาด้วยคัตซีนเล่าเรื่องที่ดูเหมือนจะอิงตัวละครและเนื้อเรื่องมาจากเกมภาคเก่าๆ ซึ่งเป็นธรรมดาที่จะสร้างความสับสนให้กับคนที่ไม่เคยเล่นมาก่อน แต่การเล่าเรื่องและแนะนำตัวละครผ่านภารกิจต่างๆ ของเกมนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีครับ เกมเล่าเรื่องด้วยตัวหนังสือ ผ่านบทสนทนา และเลือกเล่าเรื่องด้วยคัตซีนในฉากสำคัญต่างๆ สิ่งที่ผมชอบในระบบภารกิจของเกมนี้คือการที่ภารกิจหลักของเกมจะพาเราไปสำรวจแผนที่ของเกมและตัวละครต่างๆ อย่างทั่วถึง เนื้อเรื่องของเกมจะแบ่งเป็นบท โดยส่วนใหญ่แล้วเนื้อเรื่องบทหนึ่งก็จะให้เราใช้เวลาในแผนที่หนึ่งไปเลย ซึ่งเราจะได้เดินทางและสัมผัสกับมอนสเตอร์แทบทุกตัวในแผนที่นั้น ช่วยทำให้เราคุ้นเคยกับแผนที่  มอนเสตอร์ และ NPC ของเกม ซึ่งถือเป็นจุดเด่นต่างกับอีกหลายๆ เกมที่มีแผนที่ใหญ่แต่ผู้เล่นไม่ได้มีความคุ้นเคยกับแผนที่และตัวละครจริงๆ ผมรู้สึกว่าภารกิจและเนื้อเรื่องในช่วงประมาณเลเวล 20 ถึง 25 ค่อนข้างมีความจำเจและอืดอาดไปบ้าง แต่ความต่อเนื่องในช่วงเริ่มเกมถือว่าทำได้ดีจนเทียบชั้นกับเกมเล่นคนเดียวได้สบายๆ เพราะในช่วงทดสอบก็ไม่ค่อยได้พบผู้เล่นคนอื่นอยู่แล้ว แต่ลำพังภารกิจหลักของเกมก็สามารถทำให้เล่นคนเดียวได้เป็นวันๆ ระบบคราฟของสร้างอาวุธใช้เอง อาวุธและชุดเกราะของเกมนี้เท่าที่ได้ลองเล่นดูจะได้มาจากการสร้างเองเป็นหลักครับ โดยวัตถุดิบจะได้มาจากการเก็บเกี่ยวเอาในแผนที่และการลงดันเจี้ยน เมื่อเราสร้างของบ่อยขึ้นทักษะการสร้างของเราก็จะเพิ่มขึ้น ทำให้สร้างอาวุธและชุดเกราะดีๆ ในขั้นต่อไปได้ ข้อดีของระบบนี้ก็คือความผูกพันที่เรามีต่อของที่เราสร้างใช้เอง แทนที่จะเปลี่ยนอาวุธบ่อยๆ ไปใช้ของที่มีพลังเป็นหมื่นๆ ของแพงๆ จนอาวุธที่ได้มาแต่ละชิ้นไม่ค่อยมีความสำคัญเท่าไหร่ การสร้างเองแบบนี้ทำให้อาวุธแต่ละชิ้นเราได้ใช้ไปนานๆ แน่ๆ แถมเรายังติดเพชรเพิ่มความสามารถได้อีก แต่ข้อเสียก็อาจจะมีตรงที่ความหลากหลายของอาวุธและชุดเกราะของผู้เล่นแต่ละคนอาจไม่ได้มากเท่าไหร่ คงต้องรอดูในเลเวลสูงๆ ว่าจะมีอะไรที่แปลกใหม่กว่านี้หรือไม่ ระบบใช้ชีวิตสนุกๆ มีอะไรให้ทำมากมาย (ตกปลา แช่น้ำร้อน ปลูกผัก) ระบบการใช้ชีวิตของเกมนี้มีตั้งแต่ตกปลา ทำฟาร์ม ทำประมง แช่น้ำร้อน ใครที่ชอบกิจกรรมอะไรแบบนี้น่าจะถูกใจแน่นอน เท่าที่ผมลองเล่นนั้น ระบบที่ผมใช้หลักๆ ก็คือการทำฟาร์มเพื่อเอาผักมาทำยา เพราะถ้าเราเลือกที่จะเก็บผักพวกนี้เอาตามแผนที่นั้น เก็บครั้งนึงก็ได้แค่ 1 ต้น แต่การทำฟาร์ม หว่านเมล็ด แล้วไปทำอย่างอื่นรอเวลาให้ผักโต กลับมาอีกทีเก็บผักได้เป็น 10 ต้น คุ้มกว่าการที่ต้องมาวิ่งเก็บผักทีละต้นเยอะ ไม่แน่ใจว่าระบบแลกเปลี่ยนของเกมนี้จะทำให้เราเก็บผักทำยาขายเพื่อเอาเงินมาแลกอาวุธกับคนที่เน้นไปทางด้านการสร้างของได้หรือเปล่า แต่ถึงจะไม่ได้ถึงขนาดนั้นระบบใช้ชีวิตนี่ก็ช่วยสร้างความเป็นโลกอีกใบให้กับ World of Dragon Nest ได้ดีเลย โดยรวมแล้วแม้ World of Dragon Nest จะมีจุดที่ขัดใจผมอยู่บ้าง แต่อีกหลายๆ ส่วนก็ทำให้สนุกจนติดหนึบทีเดียวครับ แม้ทาง Nexon Thailand จะบอกว่าตัวที่ให้ทดสอบยังไม่สมบูรณ์ แต่เท่าที่เล่นดูก็แทบไม่พบปัญหาอะไรเลย และเท่าที่ดูจากตารางเกมมือถือที่จะออกในปีนี้แล้ว ถ้าไม่มีเซอร์ไพรส์อะไรเป็นพิเศษ ถ้าไม่มีเกมใหญ่ๆ เปิดตัวออกมาอย่างกะทันหัน เกมนี้ก็เป็นเกมในหมวด MMORPG ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ ติดตามวันเปิดลงทะเบียนและวันเปิดเซิร์ฟเวอร์ได้จากเพจหลักของเกมได้เลย (facebook.com/wodthpage)
22 Jul 2019